
ราคาของบิทคอยน์ตลอดปี 2016 ที่ผ่านมานั้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ราคาบิทคอยน์ที่ 640 ดอลลาห์สหรัฐนั้นขึ้นมาเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์จากวันที่ 1 มกราคมปีนี้ ในขณะที่ปัจจัยจากเศรษฐกิจระดับมหภาค ไม่ว่าจะเป็นจาก จีน หรือ ยุโรป นั้นมีผลกระทบอย่างมาก แต่อาจจะไม่มีอะไรที่มีผลกระทบมากไปกว่า ฮาล์ฟฟิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่กำลังจะมาถึงในสุดสัปดาห์นี้
ในขณะที่ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าการที่นักขุดบิทคอยน์จะได้รับผลตอบแทนลงครึ่งหนึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบอย่างไร ผู้เชี่ยวชาญในตลาดหลายคนได้คาดการณ์ไว้กับ CoinDesk ว่าราคาบิทคอยน์จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด
บางคนบอกว่าราคาบิทคอยน์จะขึ้นหลังจากนี้ แต่บางคนก็แย้งว่าบิทคอยน์อาจได้รับผลกระทบเชิงลบหรือไม่ก็ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อราคาบิทคอยน์เลย ผู้เชี่ยวชาญยังคาดการณ์ถึงผลกระทบต่อความผันผวนของบิทคอยน์อีกด้วย
สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบข้อมูลพื้นฐาน นักขุดบิทคอยน์จะใช้คอมพิวเตอร์ที่มีกำลังสูงเพื่อแข่งขันกันเพิ่มบล็อกของรายการการใช้บิทคอยน์เข้าไปในข้อมูลของบิทคอยน์บล็อกเชน ทุกๆ ครั้งที่นักขุดเพิ่มบล็อกเข้าไปสำเร็จและสามารถแสดงหลักฐานได้ นักขุดคนนั้นจะได้รับรางวัล โดยรางวัลนี้คือบิทคอยน์จำนวน 50 BTC ในตอนแรก แต่หลังจากการฮาล์ฟฟิ่งหนึ่งครั้งก็ลดลงเหลือ 25 BTC ในปัจจุบัน และรางวัลกำลังจะลดลงเหลือ 12.5 BTC ในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้
เมื่อเวลาผ่านไป รางวัลจะถูกลดลงครึ่งหนึ่งจนบิทคอยน์ในระบบมีปริมาณครบ 21 ล้านบิทคอยน์ สามารถคำนวณเวลาได้ด้วยการดูจำนวนบิทคอยน์ที่ถูกขุดไปเรียบร้อยแล้ว
ผู้สำรวจตลาดได้รับรู้ต่อฮาล์ฟฟิ่งที่กำลังจะมาถึงมาหลายปี ตัวอย่างเช่นนักพัฒนาและผู้อำนวยการฝ่ายการดำเนินงานของบริษัทที่รับแลกเปลี่ยนบิทคอยน์อย่าง Whaleclub ชื่อว่า Peter Zivkovski
โดยเขาได้พูดไว้ว่า ความสนใจในฮาล์ฟฟิ่งนั้นเพิ่งจะเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าการคาดเดาของนักลงทุนกำลังจะเกิดขึ้นจริง และจะเกิดการปรับสถานะการถือครองบิทคอยน์
รวมรวบการคาดการณ์ราคาบิทคอยน์
ผู้เชี่ยวชาญในตลาดหลายคนคาดว่าราคาของสกุลเงินดิจิตอลนี้จะขึ้นหลังจากฮาล์ฟฟิ่ง
โดย Joe Lee ผู้ก่อตั้งระบบการแลกเปลี่ยนอนุพันธ์ Magnr บอกกับ CoinDesk ว่า เขาคิดว่าราคาบิทคอยน์จะขึ้นภายในไม่กี่วันหลังจากเหตุการณ์นี้ แต่เขายังเสริมว่า เพียงในระยะสั้นเท่านั้น ฮาล์ฟฟิ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคามากเท่าใดนัก
นักลงทุนและเจ้าของธุรกิจอย่าง Vinny Lingham คาดว่าผู้ที่ถือบิทคอยน์อยู่จะอยากขายลดลง โดยจะส่งผลให้ราคาบิทคอยน์จะขึ้นอย่างช้าๆ แต่มั่นคง
ยิ่งกว่านั้น สถานการณ์อาจบีบคั้นและกดดันนักขุดมากขึ้น เป็นผลให้ราคาขึ้นอย่างฉับพลันได้
Lee บอกกับ CoinDesk ว่าเขามองเห็น ความผันผวนในระยะสั้นที่เกิดจากการเก็งกำไรในอนาคต แต่ยังคงเน้นย้ำว่า เหตุการณ์นี้จะมีผลกระทบอย่างจำกัดต่อราคาบิทคอยน์
Lingham ยังบอกว่าราคาบิทคอยน์นั้นผันผวนอยู่เสมอ และยังเสริมอีกว่า
"ข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดที่เราสามารถทำได้คือเชื่อว่าราคาจะยังขึ้นอยู่ถึงแม้ว่าจะเจอกับการเปลี่ยนแปลงใน เศรษฐกิจ การเมือง หรือความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี"
ความเป็นไปได้ที่ราคาจะตกลง
Lingham กังวลว่าถึงแม้ทุกอย่างจะกำลังไปได้ดีหลังจากฮาล์ฟฟิ่ง แต่อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้หลายๆ อย่าง โดยผลกระทบก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้เช่นกัน
เขายังยืนยันอีกว่า เหตุการณ์นี้อาจจะยังมีผลกระทบทางเทคนิคและทางเศรษฐกิจในทางตรงกันข้ามได้ ซึ่งนักวิจัยตลาดยังไม่ได้มีการวิเคราะห์ในส่วนนี้
โปรคเจค Lingham กับบิทคอยน์จะดำเนินการในระยะยาวขึ้น โดยจะขึ้นอยู่กับผลของการฮาล์ฟฟิ่ง เพื่อที่จะหา ราคาเพดานราคาในความผันผวนที่จะเกิดขึ้น โดยเขาคาดว่าจะอยู่ในช่วง 400-500 ดอลลาห์สหรัฐ
ขณะที่ Lingham บอกว่าเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ราคาบิทคอยน์ตกลง Zivkovski บอกว่าผลตอบรับจากตลาดต่อฮาล์ฟฟิ่งจะไม่คงอยู่ตลอดไปอย่างแน่นอน
เราคิดว่าการซื้อบิทคอยน์จะลดลงในสัปดาห์หลังจากฮาล์ฟฟิ่ง โดยผู้ที่ซื้อไปบิทคอยน์ไปก่อนหน้านี้ที่ราคา 200-300 ดอลลาห์จะได้กำไรมหาศาลจากเหตุการณ์นี้
เขาคาดว่าการเก็งกำไรในครั้งนี้จะทำให้ราคาบิทคอยน์ตกลงจนถึงแนวต้านที่ต่ำที่สุด แต่อย่างไรก็ตามเขายังคาดการณ์ด้วยความระมัดระวังเพราะเขายังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากเพียงพอ
Rik Willard ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของ Agentic Group LLC บอกว่าเขาคิดว่าราคาบิทคอยน์จะตกลง แต่แค่ชั่วคราวเท่านั้น
ผมว่าน่าจะเหมือนการแบ่งจำนวนหุ้น เราจะเห็นว่ามูลค่าของหนึ่งบิทคอยน์จะลดลง เขาบอก CoinDesk อีกว่า
"แต่ผมคิดว่าราคาของบิทคอยน์จะขึ้นเกือบถึงราคาปัจจุบันแต่ในระยะเวลาที่สั้นกว่าหุ้น โดยรับผลกระทบตลาดขาขึ้นอย่างรุนแรง"
จากการคาดการณ์นี้ Willard บอกว่าเขาไม่คิดว่าว่าราคาจะผันผวนมากขึ้นจากฮาล์ฟฟิ่ง คล้ายกับที่ Zivkovski บอกว่าความผันผวนจะไม่มากอย่างเป็นนัยยะสำคัญเช่นเดียวกับฮาล์ฟฟิ่งครั้งที่แล้ว
เขาบอกว่า เราคิดว่าความผันผวนจะยังอยู่ในระดับปกติ ในช่วงระหว่างฮาล์ฟฟิ่งเพราะการคาดการณ์ต่อเหตุการณ์นี้ได้ส่งผลกระทบต่อราคาไปแล้ว
คงราคาในปัจจุบัน
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนพูดถึงราคาที่จะขึ้นหรือลงไปแล้ว Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทรับแลกเปลี่ยนบิทคอยน์อย่าง BitMEX ยืนยันว่าฮาล์ฟฟิ่งจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อตลาด
เขาบอก CoinDesk ว่า ในความคิดของผม ฮาล์ฟฟิ่งจะไม่มีผลกระทบต่อราคาบิทคอยน์ เงินเฟ้อของบิทคอยน์ที่ลดลงนั้นมีสัดส่วนที่น้อยมากเทียบกับจำนวนบิทคอยน์ที่ถูกแลกเปลี่ยนในแต่ละวัน ซึ่งมีความสำคัญต่อตลาดมากกว่า
เขาอธิบายอีกว่า ถ้าราคาบิทคอยน์ยังอยู่ในช่วง 300-400 ดอลลาห์สหรัฐ ฮาล์ฟฟิ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการตัดสินใจของนักขุดว่าจะดำเนินการต่อไปหรือไม่ แต่ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 600-700 ดอลลาห์สหรัฐแล้ว เขาไม่เชื่อว่าฮาล์ฟฟิ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญนัก
Daniel Masters ผู้ดูแลกองทุน Global Advisors Bitcoin Investment บอกกับ CoinDesk ว่า เขาเชื่อว่าฮาล์ฟฟิ่งจะไม่มีผลกระทบต่อราคาบิทคอยน์มากนัก อย่างน้อยก็ในขั้นต้น
บางคนอาจกังวลเกี่ยวกับฮาล์ฟฟิ่ง อย่างเช่นการเก็งกำไรซึ่งอาจทำให้นักขุดไม่คุ้มค่าที่จะขุดอีกต่อไป Lee ยืนยันว่า หลายๆ คนในตลาดบิทคอยน์จะได้รับผลกระทบที่ต่างกันออกไป
ตลาดมองว่าฮาล์ฟฟิ่งเป็นสัญญาณของการเติบโตของตลาด เขาบอกกับ CoinDesk อีกว่า
"ฮาล์ฟฟิ่งแสดงถึงก้าวที่ยิ่งใหญ่ของวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เพราะว่ามันแสดงถึงโปรเจ็คของการกระจายระบบคอมพิวเตอร์แบบเข้ารหัสที่ใหญ่และมีอนุภาพมากที่สุดในโลกขณะนี้"
ที่มา: Bitcoin Halving 2016: Will the Price Rise or Fall? by Charles Bovaird
วันที่ : 7 กรกฎาคม 2016 เวลา 22:07 ตามเวลาประเทศไทย
ยังไม่มีกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์กับ coins.co.th? คลิก ที่นี่ เพื่อดูวิธีการสมัคร
เติมเงินเข้ากระเป๋าสตางค์ของคุณด้วยการ ซื้อบิทคอยน์ วันนี้!